ใครๆ จะไปรู้...ว่าเจ้า "สับปะรด" ผลไม้หนามหลายตา ที่ใครหลายคนมองข้าม จะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ และมีข้อดีกับสุขภาพอยู่หลายประการ ช่วยให้เราบรรเทาอาการต่างๆ แถมหากคุณๆ กินอย่างถูกวิธีแล้ว ผลไม้อย่างสับปะรด จะช่วยให้คุณสุขภาพดีขึ้นด้วยไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ได้ข้อมูลมาจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่มาแนะนำประชาชนบริโภคสับปะรด ผลไม้ตามฤดูกาล ทั้งนี้ก็เป็นการช่วยเกษตรกรที่ปลูกสับปะรดแต่ราคาตกต่ำในขณะนี้ด้วย เราไปดูประโยชน์ของสับปะรด ว่ามีอะไรบ้าง?
ประโยชน์ ข้อดีของสับปะรด
1. สับปะรด 100 กรัม ให้พลังงาน 50 กิโลแคลอรี รับรองกินแล้วไม่อ้วน!
2. สับปะรด มีสรรพคุณทางยา ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก สำหรับค
นที่ไม่ถ่าย มีตัวช่วยแล้วจ้า
3. ช่วยบรรเทาอาการไอ สมุนไพรใกล้ตัว จะดีกว่ายาที่เป็นเคมีนะ
4. มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ลดสาเหตุการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
5. ลดภาวะบวมน้ำ ทางออกสำหรับสาวๆ ที่ชอบคิดว่าพุงป่อง
6. แกนสับปะรด มีเอนไซม์บรอมีเลน ช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการจุกเสียดแน่นเฟ้อได้เป็นอย่างดี
ข้อควรระวัง!!
1. ไม่ควรรับประทานขณะท้องว่าง เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
2. ไม่ควรรับประทานสับปะรดดิบ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง
ข้อแนะนำ
1. การรับประทานสับปะรด ควรหั่นเนื้อและแกนกลางด้วย จะได้รับประโยชน์สูงสุด
2. เพื่อป้องกันอาการแสบลิ้นจากการรับประทานสับปะรด หลังจากปอกเสร็จ
เราควรนำสับปะรดไปแช่ในน้ำเกลือก่อน 2-3 นาที เพื่อลดการเกิดปฏิกิริยากับอวัยวะในปาก
อ่านจบ...รีบลุกไปหาซื้อสับปะรดกินกันเลย รับรองหาไม่ยาก ราคาไม่แพง แต่มีคุณประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นผลไม้และมีสรรพคุณทางยา นี่แหละ...ของดีบ้านเรา แถมงานนี้ได้ช่วยเกษตรกรที่ราคาสับปะรดตกต่ำด้วย.
อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1320697
กล้วยน้ำว้า ผลไม้พื้นบ้านที่อยู่คู่คนไทยมานานหลายชั่วอายุคน กล้วยน้ำว้าบดกับข้าวนิ่มๆ นับเป็นอาหารเสริมชั้นยอดสำหรับเด็กอายุหกเดือน นอกจากการดื่มนมแม่

กล้วยน้ำว้า ผลไม้ไทยที่มีคุณค่าทางอาหารล้นเหลือ สารอาหารที่พบมีทั้งน้ำตาล เบตาแคโรทีน วิตามินซี โปแตสเซียม แมกนีเซียม ทองแดง ฟอสฟอรัส โฟเลต ใยอาหาร และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอล และแทนนิน อีกด้วย
คนไทยทานกล้วยน้ำว้าได้ทั้งผลดิบ ผลห่าม ผลสุก และผลงอม หรือนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารคาวหวาน เช่น ผลดิบนำมาทำเป็นส้มตำกล้วย ผลห่ามนำมาทำเป็นกล้วยบวดชี กล้วยทอด ผลสุกนำมาบดกับข้าวเป็นอาหารเสริมให้เด็กทาน
กล้วยน้ำว้าห่ามหรือจวนสุกนั้นมีโปแตสเซียมในปริมาณสูง โปแตสเซียม มีหน้าที่ช่วยการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายเป็นปกติ เช่น ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ควบคุมสมดุลของอิเล็กโกรไลต์และสมดุลของกรด-เบสในร่างกาย ควบคุมโรคความดันสูง ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โปแตสเซียมเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ ปริมาณที่แนะนำให้บริโภคประจำวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป อยู่ที่ 3,500 มิลลิกรัม
เพื่อเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภค วันนี้มันมากับอาหาร ได้นำกล้วยน้ำว้าห่าม ผลขนาดใหญ่ที่เปลือกภายนอกสีเหลืองแต่มีสีเขียวประปราย สามารถทานได้สดๆ รสชาติไม่หวานจัด ที่ซื้อจากตลาดจำนวน 5 ตัวอย่าง มาวิเคราะห์ปริมาณโปแตสเซียม
ผลวิเคราะห์พบว่า ในกล้วยน้ำว้าห่าม 1 ผล เฉพาะส่วนที่ทานได้ประมาณ 53 กรัม มีโปแตสเซียมอยู่ในช่วง 170.73–206.38 มิลลิกรัม
เห็นข้อมูลอย่างนี้แล้ว ท่านที่ต้องการโปแตสเซียม ขอแนะให้หันมาทานกล้วยน้ำว้าห่ามแหล่งอาหารธรรมชาติจะดีกว่า หรือท่านที่ท้องเสียอาจเลือกทานกล้วยน้ำว้าห่ามเพื่อชดเชยโปแตสเซียมให้แก่ร่างกาย.
อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1320517#cxrecs_s
MAGKID SHOP