'น้องคะน้า'เจ้าของหนังสั้นดีเด่น 'ย่ายิ้ม My angle'

'น้องคะน้า'เจ้าของหนังสั้นดีเด่น 'ย่ายิ้ม My angle'

"น้องคะน้า-ภัทร์ภัสสร" กับผลงานหนังสั้น 'ย่ายิ้ม My angle' เจ้าของโล่เชิดชูเกียรติคุณ และเกียรติบัตรผู้สร้างสื่อดีเด่นแห่งชาติ

อาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2560 เวลา 01.20 น.

ผ่านพ้นไปหมาด ๆ กับงานรวมพลังสื่อสร้างสรรค์สังคมไทย ซึ่งจัดโดยกระทรวงวัฒน ธรรม  ในงานนอกจากจะระดมความคิดเห็นของสื่อแต่ละภาคส่วน เพื่อร่วมกำหนดทิศทางในการสร้างสื่อที่สร้างสรรค์ที่หลากหลายแล้ว ยังมีการมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติสื่อดีมีคุณภาพอีกด้วย

และหนึ่งในนั้นก็คือ “น้องคะน้า-ภัทร์ภัสสร ธนาเสฏฐ์หิรัญ” นิสิตปริญญาเอกหลัก สูตรสหสาขาวิชาธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รับ โล่เชิดชูเกียรติคุณและเกียรติบัตรผู้สร้างสื่อดีเด่นแห่งชาติ ประเภทส่งเสริมชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จากพลเอกธนศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี

น้องคะน้า บอกว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เพราะมีสื่อต่าง ๆ ที่มีคุณภาพได้รับการคัดเลือกจำนวนกว่า 90 ผลงาน และผลงานที่ได้รับรางวัลทั้งหมดเป็นรายการโทรทัศน์  มีเพียงภาพยนตร์สั้นของตนเพียงชิ้นเดียวที่เป็นผลงานของนิสิตจุฬาฯ

ผลงานภาพยนตร์สั้นของคะน้าที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เรื่องนี้มีชื่อว่า  “ย่ายิ้ม My angle”  เป็นเรื่องราวที่นำเสนอเกี่ยวกับหญิงชราคนหนึ่ง วัย 88 ปี ที่ใช้ชีวิตเพียงลำพังอยู่กลางป่ามานานกว่า 40 ปี ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา และย่ายิ้มได้สืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยการสร้างฝายชะลอน้ำ 16 ฝาย และปลูกต้นไม้กว่า 9,000 ต้น เพื่อให้คนและสัตว์ได้มีที่อยู่อาศัยในพื้นที่ระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์  

ในการผลิตภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ เธอได้เดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์ที่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก และนำมาเผยแพร่ผ่าน facebook, YouTube และสื่อออนไลน์ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่มารับชมและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก  คะน้าบอกว่า แนวคิดในการทำภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้ผู้ชมได้ฉุกคิดว่า ไม่จำเป็นที่คนเราต้องมีฐานะดีก่อนถึงจะช่วยเหลือประเทศชาติได้ อยากให้เด็กรุ่นใหม่ได้ดูแล้วกลับมามองว่าวันนี้สามารถทำอะไรเพื่อสังคมและประเทศชาติได้บ้าง

นอกจากรางวัลที่ได้รับจากการประกวดในครั้งนี้แล้ว เธอยังได้รับรางวัลจากการส่งผลงานวิจัยเข้าประกวดในเวทีต่าง ๆ อีกหลายรางวัล ช่วยสร้างความมั่นใจว่าสิ่งที่เรียนมานั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง รวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้น้อง ๆ ในหลักสูตรฯ ในการสร้างสรรค์ผลงานเข้าประกวดจนประสบความสำเร็จ

ดีกรีของสาวคนนี้ไม่ธรรมดา เพราะเมื่อหลายปีก่อน เธอกลายเป็นที่สนใจและได้รับการพูดถึง ในฐานะเศรษฐีพันล้านที่สร้างตัวจากเด็กเก็บขยะ แม้ครอบครัวจะมีฐานะปานกลาง แต่เพราะถูกโกงทำให้ครอบครัวของเธอมีหนี้ที่ไม่ได้ก่อถึง 2 ล้านบาท คะน้าต้องทำงานทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือครอบครัว ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอเป็นคนที่เห็นคุณค่าของเงินและการทำงานมาก

จุดเปลี่ยนของคะน้าเริ่มจากการโพสต์ขายครีมบำรุงผิวในโซเชียล ก่อนจะศึกษาอย่างละเอียดและสร้างผลิตภัณฑ์ สร้างแบรนด์ของตัวเอง จำหน่ายในเซเว่นแคตตาล็อก ทำให้เธอสามารถปลดหนี้ให้ครอบครัวได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี และกลายเป็นเศรษฐีพันล้านในเวลาต่อมา

เพราะความมุ่งมั่นทำให้สาวคนนี้ประสบความสำเร็จในด้านอาชีพ แต่ก็ยังไม่ทิ้งการเรียน และอีกสิ่งที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จก็คือความคิดสร้างสรรค์ในสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งเธอแนะนำน้อง ๆ รุ่นใหม่ว่า

“ในการคิดสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ อาจเริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่น้อง ๆ ได้เรียนมา หากเรากล้าที่จะเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ชีวิตก็จะได้พบเจอสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญคือเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราจะต้องรู้จักจัดสรรเวลาให้ลงตัวทั้งในด้านการเรียนและการทำงาน  รางวัลที่ได้รับถือเป็นกำลังใจให้กับชีวิตในการทำสิ่งดี ๆ ต่อไป ถ้าเราคิดดี พูดดี ทำดี ทุกอย่างก็จะดีไปด้วย นอกจากนี้ความกตัญญู รู้จักบุญคุณคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เมล็ดข้าวที่สมบูรณ์อยู่ไหนก็ยิ่งจะทำให้พื้นที่นั้นอุดมสมบูรณ์ ถ้าเราเป็นคนมีคุณภาพอยู่ที่ไหนที่นั่นก็จะดีขึ้น”

นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ และน่าเอาเป็นแบบอย่าง!!.

-----------------

นภาพร พานิชชาติ

napapornp@dailynews.co.th... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/article/595839