ราคาบ้านสูงลิบสกัดการมีลูก กับดักเศรษฐกิจต้องแก้ไข
สัปดาห์นี้มีผลวิจัยของสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติจีนที่น่าสนใจว่า...ราคาบ้านที่สูงขึ้นกระทบต่ออัตราการเกิด แต่ถ้าปรับลงจะช่วยให้ประชากรเพิ่มขึ้นได้จริงไหม?
หลังจากที่จีนได้ดำเนินการเปลี่ยนให้คนที่เป็นลูกโทนทั้งฝ่ายชายและหญิงสามารถมีลูกคนที่ 2 ได้ แต่นโยบายนี้เพิ่งจะใช้ได้เพียง 2 ปีเท่านั้น ปัจจุบันจีนได้ดำเนินนโยบายให้ทุกครอบครัวสามารถมีบุตรคนที่ 2 ได้ทั่วทั้งประเทศ ทั้งนี้นโยบายนี้มีความต้องการกระตุ้นให้เพิ่มจำนวนประชากรทั่วประเทศ เพราะอีกในเวลาไม่ช้าจีนจะเข้าสู่ “ประเทศประชากรสูงวัย” จนเกิดวิกฤติของจำนวนประชากรได้
นโยบายการกระตุ้นนี้จะได้ผลหรือไม่?? จากสถิติของจีนปัจจุบันอัตราการเกิดอยู่ที่ร้อยละ 1.28 และเป็นที่น่าสังเกตว่าสืบเนื่องมาจากราคาบ้านที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเป็นภาระใหญ่ของปัจจัยทางเศรษฐกิจ ครอบครัวจำนวนมากจึงเกิดความลังเลที่จะมีบุตรคนที่ 2 ทำให้ในปัจจุบันภาครัฐของจีน 40 กว่าหน่วยงานภายใต้สำนักรัฐมนตรีได้กระจายงานเพื่อจะส่งเสริมมาตรการการมีบุตรคนที่ 2
สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติจีน ได้แถลงว่าจากการรายงานของเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 21 พบว่า...จากราคาบ้านที่สูงขึ้นมากในเมืองใหญ่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออัตราเกิดของคนจีน ซึ่งหากราคาบ้านนั้นค่อยๆ ปรับตัวก็อาจจะเป็นตัวช่วยให้จำนวนประชากรในจีนเพิ่มขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วบ้านในเมืองใหญ่ของจีนนั้น ราคาสูงมากมาตั้งแต่หลังปี 1980 จนในปี 1990 เป็นต้นมา “บ้าน” เป็นสิ่งที่ราคาสูงเกินกว่าที่จะหนุ่มสาวชาวจีนจะสามารถจับต้องได้ จึงเป็นสิ่งที่แน่นอนว่าราคาบ้านย่อมกระทบกับการเกิดของประชากรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในขณะที่ถ้าไม่มีบ้าน พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็คงไม่ยอมให้ลูกสาวของตนแต่งงานกับหนุ่มได้ “บ้าน” จึงเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างครอบครัว ไม่ต้องพูดถึงชีวิตคนสมัยก่อนของจีนที่สามารถอยู่รวมๆ กันได้พ่อแม่ลูกในห้องเล็กๆ เพียงห้องเดียว ปัจจุบันนั้นสถานการณ์เปลี่ยนไป
การที่รัฐบาลออกมาสนับสนุนให้มีลูกได้ 2 คน ก็ย่อมจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า “บ้าน” ก็ต้องมีห้องนอน 3 ห้อง มีห้องครัว ห้องรับแขก ห้องน้ำ ราคาบ้านที่แพงอยู่แล้วก็ยิ่งต้องขยับกันขึ้นไปอีก ไหนจะต้องมีรถขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิมที่ปั่นจักรยานไปทำงาน ก็กลายเป็นขับรถไปทำงาน ไหนจะเวลาไปเที่ยวมีพ่อแม่ลูก 2 คน แล้วปู่ย่านั่งไปด้วยอีก รถเก๋งก็ไม่พอนั่ง ก็ต้องหารถพวกเอ็มพีวี หรือรถเอสยูวีมาใช้ ทำให้ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูงมากขึ้นไปอีก
แม้ว่านักประชากรศาสตร์จะออกมาคาดการว่า ภายใต้นโยบายกระตุ้นการมีบุตรของจีนที่อนุญาตให้มีคนที่ 2 ได้ ให้เพิ่มวันลาพักคลอดลูกทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย มาตรการด้านภาษีก็ตามที แต่จากตัวเลขที่รายงานพบว่า...ในปี 2017 นั้นจำนวนประชากรที่เกิดนั้นต่ำกว่าที่คาดไว้ถึง 3,000,000 คน




จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า “การเพิ่มของประชากรนั้นสัมพันธ์กับการเพิ่มของสภาพเศรษฐกิจ” ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว จากการพัฒนาของระดับมาตรฐานเศรษฐกิจ ส่งผลให้อัตราการเกิดของประชากรนั้นลดลง แต่ในปัจจุบันปัจจัยหลักอีกอันก็คือ “ราคาอสังหานั้นสัมพันธ์กับการเกิดของประชาชนอย่างแนบแน่น”
แม้ว่านักประชากรศาสตร์จะทำงานวิจัยออกมามากมายเป็นตู้ๆ แต่ก็ต้องมาติดกับดักด้วยเรื่อง “ราคาอสังหาฯ” ในจีนที่ร้อนแรงจนหยุดไม่ได้ฉุดไม่อยู่ จนแพงเกินกว่าที่คนจะซื้อหาได้ และจึงส่งผลต่อการเพิ่มของประชากรไปอย่างช่วยไม่ได้
อย่างไรก็ตาม “ปัจจัยอสังหาฯ” หรือ “กับดักเศรษฐกิจ” นี้มักจะเป็นชัดเจนกับคนในเมืองใหญ่ แต่คนชนบทกลับไม่ใช่ปัจจัยหลัก จึงพบได้ว่าคนในชนบทจะมีการเกิดของประชากรที่สูงกว่าคนในเมือง ซึ่งภาวะนี้ก็คงไม่ต่างไปกับประเทศไทยเท่าใดนัก ที่อสังหาฯ ที่เริ่มมีความร้อนแรงก็ส่งผลให้คนหนุ่มสาวไม่สนใจที่จะมีลูก ความรัดตัวของเศรษฐกิจ การงาน ล้วนส่งผลต่อการเพิ่มของประชากรทั้งสิ้น!!
….........................................................
คอลัมน์ : ฝ่ากำแพงเมืองจีน
โดย “อ.ดร.ศิริเพ็ชร ทฤษณาวดี”
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/article/650884
MAGKID SHOP